เครื่องสำรองไฟ คืออะไร
เครื่องสำรองไฟ (UPS) คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่จ่ายไฟเพื่อสำรองและป้องกันการหยุดชะงักของอุปกรณ์ไฟฟ้าจากอาการไฟตก ไฟเกิน หรือไฟฟ้าดับ ช่วยป้องกันอุปกรณ์เสียหาย ทำงานต่อได้ชั่วคราว มีเวลาในการบันทึกงานและปิดอุปกรณ์
ในเครื่องสำรองไฟส่วนมากจะมีวงจรชาร์จ วงจรอินเวอร์เตอร์ สวิตช์ มิเตอร์ และแบตเตอรี่เป็นส่วนประกอบสำคัญ หลักการคือ ถ้าแหล่งไฟฟ้าหลักมีปัญหา ยูพีเอสก็จะสวิตช์มาใช้แบตเตอรี่ที่ชาร์จไว้ ส่งต่อเป็นไฟฟ้ากระแสสลับผ่านวงจรอินเวอร์เตอร์ไปอุปกรณ์ไฟฟ้าทันที
อะไรบ้างที่ควรใช้ UPS?
UPS เหมาะสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ที่อ่อนไหวต่อไฟฟ้าและต้องการการป้องกันขณะไฟฟ้าผิดปกติ โดยเฉพาะ
- ระบบคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์
- เครื่องมือทางการแพทย์
- กล้องวงจรปิด
- อุปกรณ์เน็ตเวิร์กและหน่วยจัดเก็บข้อมูล NAS
- โปรเจคเตอร์หรืออุปกรณ์ภาพและเสียง
- ตู้เย็นแช่ยาหรือวัคซีน เพื่อรักษาอุณหภูมิให้คงที่
ยกเว้นอุปกรณ์ที่ใช้กำลังไฟสูงและมีมอเตอร์ อย่างเครื่องปรับอากาศ ลิฟท์ หรือปั๊มน้ำ ที่ไม่แนะนำใช้ยูพีเอส เพราะไม่สามารถสำรองพลังงานได้พอ
ประเภทหลัก ๆ ของเครื่องสำรองไฟ
เครื่องสำรองไฟแบ่งได้ 3 ประเภทหลัก ๆ คือ Offline/Standby, Line-Interactive และ Online/Double Conversion ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน ดังนี้
UPS แบบออฟไลน์หรือสแตนด์บาย เป็นยูพีเอสราคาถูกที่สุด จ่ายไฟออกจากแหล่งไฟฟ้าหลักที่ผ่าน Filter เข้าไปตรงๆ แต่เมื่อไฟฟ้าเกิดปัญหา จึงจะสวิตช์มาใช้แบตเตอรี่ และเปลี่ยนไฟจากแบตเตอรี่เป็นกระแสสลับ
ข้อดี |
ราคาถูก เหมาะสำหรับใช้กับคอมพิวเตอร์ทั่วไป |
ข้อเสีย |
สำรองไฟได้ไม่นาน ไม่เหมาะถ้ามีปัญหาไฟฟ้าบ่อย ๆ และใช้เวลาสลับสัญญาณเพื่อสำรองไฟค่อนข้างมาก คอมพิวเตอร์บางรุ่นอาจรีสตาร์ทได้ |
ราคาปานกลาง จ่ายไฟฟ้าหลักผ่าน Stabilizer เพื่อปรับระดับแรงดันไฟฟ้าให้คงที่ก่อนส่งไปอุปกรณ์ไฟฟ้า ถ้าแรงดันเกินมาตรฐาน 220/230 โวลต์ ± 25% ก็จะสวิตช์เข้าโหมดสำรองไฟโดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แทน
ข้อดี |
เหมาะกับเครื่องคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ เสถียรมากกว่า Standby UPS และราคาถูกกว่าแบบ Online |
ข้อเสีย |
การปรับแรงดันไฟฟ้าไม่เสถียรเหมือน Online UPS และมีดีเลย์เวลาสลับไปใช้แบตเตอรี่เมื่อไฟฟ้าดับ แต่ไม่นานเท่า Standby UPS |
-
UPS แบบ Online/Double Conversion
Online UPS หรืออีกชื่อ Double-Conversion UPS ราคาสูงเพราะมี Rectifier แปลงไฟฟ้ากระแสสลับ AC เป็นกระแสตรง DC เข้าเครื่องและชาร์จแบตเตอรี่ตลอดเวลา ก่อนแปลงกลับเป็นไฟฟ้า AC ที่คงที่ด้วย Inverter แล้วส่งไปอุปกรณ์ไฟฟ้าอีกที
ข้อดี |
ไฟฟ้าไม่มีการสะดุดหรือถูกรบกวนจากแหล่งไฟหลัก ไม่มีดีเลย์สลับสัญญาณ เหมาะสำหรับอุปกรณ์อ่อนไหวที่ต้องการความเสถียรของไฟมาก ๆ |
ข้อเสีย |
ราคาสูง กินไฟมาก และอายุการใช้งานสั้นเมื่อเทียบกับเครื่องสำรองไฟประเภทอื่น เพราะระบบทำงานตลอดเวลา |
วิธีเลือกซื้อเครื่องสำรองไฟ (UPS)
1. กำหนดความต้องการใช้งาน
ก่อนอื่นต้องดูประเภทของอุปกรณ์ที่ต้องการสำรองไฟ ว่าต้องใช้งานนานแค่ไหนกรณีไฟฟ้าดับ เพื่อจะกำหนดประเภทกับความจุของเครื่องสำรองไฟให้เหมาะกับลักษณะการใช้
และต้องคำนวณกำลังไฟฟ้าที่ใช้ด้วย โดยรวมอัตรากำลังไฟ (VA) ของทุกอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องการสำรองไฟ ซึ่งต้องมีค่ามากกว่ากำลังไฟของเครื่อง UPS เล็กน้อย แนะนำให้เผื่อกำลังไฟเพิ่ม 20-25% ของภาระการใช้งาน เพื่อรองรับกำลังไฟชาร์จแบตเตอรี่และกรณีฉุกเฉิน
2. เช็คคุณสมบัติกับฟีเจอร์ต่าง ๆ
- จำนวนเต้ารับเพียงพอต่อการใช้งาน
- มีระบบป้องกันไฟกระชาก
- มีซอฟต์แวร์จัดการ UPS ที่ใช้ง่ายและเช็คได้หลากหลาย
- การรับประกันคุณภาพเครื่องสำรองไฟ และมีบริการหลังการขาย
3. เทียบราคาและยี่ห้อ เครื่องสำรองไฟ (UPS)
มีแบรนด์เครื่องสำรองไฟ (UPS) มากมาย แต่ละยี่ห้อก็ต่างกันทั้งในด้านราคา คุณภาพ การบริการ และความน่าเชื่อถือ แนะนำว่าควรเทียบราคากับคุณภาพของแต่ละแบรนด์ จากรีวิว บทความ เว็บไซต์ หรือสอบถามผู้ที่เคยใช้จริง เพื่อให้รู้จุดเด่นกับข้อบกพร่องของแต่ละรุ่นครับ
ทำไมต้องซื้อเครื่องสำรองไฟ ที่ GOODDEEBATTERY
เพราะที่ GOODDEEBATTERY เราจำหน่ายเครื่องสำรองไฟคุณภาพดี จากแบรนด์ยูพีเอสชั้นนำระดับโลกให้เลือก พร้อมทีมให้คำปรึกษาในการเลือกซื้อและบริการหลังการขาย สำหรับทั้งใช้ในบ้าน ในออฟฟิศ หรือการใช้งานในอุตสาหกรรม